airCloud Go: IoT ปรับปรุงประสบการณ์ความสะดวกสบายอย่างไร

IoT (Internet of Things:) เป็นแนวทางสำหรับพื้นที่ในการแสดงผลข้อมูลออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ตของเทคโนโลยีในประเทศที่ชาญฉลาดที่สามารถสื่อสาร และทำงานร่วมกันในเชิงพาณิชย์ และที่อยู่อาศัยได้ ซึ่งการใช้งานมีตั้งแต่ระบบรักษาความปลอดภัยไปยังเครื่องใช้ในครัวเรือน ผ่านอุปกรณ์ติดตามกิจกรรม และลำโพงอัจฉริยะ ปัจจุบันIoT  ถูกนำมาใช้ เพื่อเพิ่มประสบการณ์ความสะดวกสบายที่บ้าน ซึ่งเป็นการคิดค้นวิธีที่เราสามารถโต้ตอบกับเทคโนโลยีในบ้านของเราได้ และจากความสนใจที่เพิ่มมากขึ้นในส่วนของวิธีการเชื่อมต่อ และความสะดวกสบายในบ้าน เราจึงได้นำเสนอIoT  ของเราด้วยการเปิดตัว airCloud Go ซึ่งเป็นชุดแอปพลิเคชันใหม่ของเราที่ทำให้เครื่องปรับอากาศของคุณเป็นเครื่องปรับอากาศอัจฉริยะ

ในบทความนี้ คุณจะได้อ่านเกี่ยวกับ

·       IoT (Internet of Things) คืออะไร

·       ตัวอย่างของอุปกรณ์ที่ใช้IoT

·       IoT  และระบบอัตโนมัติในบ้าน

·       คำสั่งเสียง และข้อดีของคำสั่งเสียง

·       เครื่องปรับอากาศอัจฉริยะ และประโยชน์ของ airCloud Go

IoT และบ้านของคุณ

 หากคุณไม่คุ้นเคยกับแนวคิดของIoT เว็บไซต์การศึกษาด้านไอที Tecnopedia
มีคำจำกัดความที่สมบูรณ์ว่า

“IoT  เป็นแนวคิดเกี่ยวกับการประมวลผลที่อธิบายถึงแนวคิดของวัตถุทางกายภาพในชีวิตประจำวันที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต และสามารถระบุตัวตนกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ ซึ่งIoT   มีความสำคัญ เนื่องจากวัตถุที่สามารถแทนตัวเองในรูปแบบดิจิทัลกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าวัตถุธรรมดาด้วยตัวมันเอง ซึ่งวัตถุนั้นอาจไม่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้อีกต่อไป แต่ปัจจุบันนี้มันได้ถูกเชื่อมต่อกับวัตถุที่อยู่รอบตัว และข้อมูลในฐานข้อมูล”

               ตามที่แนะนำไว้ข้างต้น วัตถุเหล่านี้ หรือที่เรียกว่าอุปกรณ์นั้นใช้อินเทอร์เน็ต เพื่อโต้ตอบกัน และรับคำสั่งจากอุปกรณ์อื่น หรือผู้ใช้อื่น โดยมีแอปพลิเคชัน และระบบมากมายที่เชื่อมต่ออุปกรณ์เข้าด้วยกัน และกำหนดวิธีการใช้งาน

·       อุปกรณ์ที่รวบรวมข้อมูล และส่งไปยังอุปกรณ์อื่น

·       อุปกรณ์ที่รับข้อมูล แล้วจึงสร้างการกระทำใด ๆ

·       อุปกรณ์ที่สามารถทำได้ทั้งสองอย่าง

               ดังนั้นสิ่งนี้มีประโยชน์ต่อสภาพแวดล้อมภายในบ้านอย่างไร ซึ่งหนึ่งคำหลักที่สำคัญ เมื่อตอบคำถามนี้คือ “ความสะดวกสบาย” ด้วยการติดตั้งIoT   ที่ถูกต้องในบ้าน ภาระงาน
ต่าง  ๆ เช่น การเปิด และปิดผ้าม่าน การล็อคประตูในเวลากลางคืน และการเริ่มต้นเครื่องดูดฝุ่นหุ่นยนต์ของคุณจะดำเนินการเอง โดยไม่จำเป็นต้องมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์

               อีกตัวอย่างหนึ่งของIoT   ที่บ้าน อาจเป็นไฟที่หรี่ลงโดยอัตโนมัติ เมื่อคุณเริ่มชมภาพยนตร์ หรือระดับเสียงเพลงที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณผู้คน และเสียงรบกวนในห้อง ซึ่งการกระทำที่ค่อนข้างเล็กน้อยเหล่านี้เกิดจากการแบ่งปันข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์ความสะดวกสบายของเราที่บ้านได้

               เจ้าของบ้านสามารถเพลิดเพลินกับการจัดการอุปกรณ์ได้มากขึ้น โดยใช้สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตเป็นเครื่องมือในการควบคุมอุปกรณ์ ซึ่งทำได้โดยการจับคู่อุปกรณ์กับสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต หรือแม้กระทั่งการแชร์ WiFi เดียวกัน จากนั้นโดยส่วนมาก แอปพลิเคชันเฉพาะจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานอุปกรณ์ได้ แม้ว่าจะอยู่ห่างจากบ้านก็ตาม

 

Hitachi Cooling & Heating airCloud Go app is convenient

 

แอปพลิเคชันทั่วไปของIoT  ที่บ้าน

               หนึ่งในแอปพลิเคชันของIoT  ที่บ้านที่เห็นได้ชัดเจนมากขึ้น คือ สมาร์ททีวี ซึ่งมีชุดแอปพลิเคชันบนหน้าจอหลัก จากนั้นสามารถเข้าถึงได้โดยใช้ตัวควบคุม หรืออุปกรณ์อัจฉริยะ (เช่น โทรศัพท์)

               อีกหนึ่งแอปพลิเคชั่นสำคัญของIoT  ที่ดึงดูดจินตนาการของผู้คนนับล้านทั่วโลก คือ อุปกรณ์ติดตามกิจกรรม อย่างเช่น อุปกรณ์สวมใส่ที่ข้อมือ ซึ่งส่ง และรับข้อมูลเกี่ยวกับแคลอรี่ รูปแบบการนอนหลับ อัตราการเต้นของหัวใจ และอื่น ๆ อีกทั้งช่วยให้ผู้ใช้ติดตามสุขภาพ และความคืบหน้าของตนเองผ่านแผนภูมิรูปภาพบนโทรศัพท์ ซึ่งแนวคิดนี้ต่อขยายไปสู่สมาร์ทวอทช์ที่รวมถึงการติดตามการออกกำลังกาย การส่งข้อความ และการแจ้งเตือนทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งทั้งหมดนี้มีอยู่บนข้อมือของผู้สวมใส่อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม

               ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ การใช้งานอื่น ๆ ได้แก่ ระบบแสงสว่าง ระบบรักษาความปลอดภัย และระบบเฝ้าระวัง และแจ้งเตือนอัตโนมัติ ซึ่งเหล่านี้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของเรา และให้เราสามารถควบคุม และเข้าถึงได้ทันที

               มีจำนวนหลายบ้านมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะ ทำให้เรากำลังก้าวไปสู่แนวคิดของบ้านอัจฉริยะ และสร้างพื้นที่อยู่อาศัยที่ตอบสนอง และปรับให้เข้ากับความต้องการของเราด้วยคำสั่งเพียงไม่กี่คำหรือไม่ต้องใช้คำสั่งเลย ซึ่งเหล่านี้ได้ปูทางไปสู่ระบบอัตโนมัติในบ้าน

IoT และระบบอัตโนมัติในบ้าน

               ในเวลาสิ้นปี 2019 Statista ได้รายงานว่า สหรัฐฯ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้บริโภคเทคโนโลยีระบบบ้านอัจฉริยะรายใหญ่ที่สุด โดยมีปริมาณตลาด 23.5 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะมากถึง 62.7 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2023 ซึ่งจีนอยู่ไม่ไกลเกินไปในแง่ของปริมาณตลาด และสองประเทศนี้กำลังทำให้บ้านอัจฉริยะ และระบบอัตโนมัติในบ้านเป็นจริงขึ้นมา

               ระบบอัตโนมัติในบ้าน บ่งบอกถึงระบบศูนย์กลางที่ควบคุมแสงสว่าง ความร้อน การใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้า และเทคโนโลยีความบันเทิงทั่วทั้งบ้าน ซึ่งระบบเหล่านี้สามารถทำงานได้ด้วยตัวเอง หรือได้รับการตั้งโปรแกรมให้เปิดใช้งานอุปกรณ์บางอย่างในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ข้อดีอย่างหนึ่งของระบบอัตโนมัติในบ้าน คือ วิธีที่สามารถใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้ารอบ ๆ บ้าน และในทางกลับกันยังช่วยรักษาปริมาณการใช้พลังงาน และประสิทธิภาพได้

 

Voice Command and Smart Air Conditioners

 

Amazon Echo และ Google Home เป็นตัวอย่างชั้นนำของผลิตภัณฑ์ระบบบ้านอัจฉริยะที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการควบคุมจากส่วนกลาง ซึ่งช่วยให้เจ้าของบ้านเชื่อมต่ออุปกรณ์หลายเครื่องเข้าด้วยกัน   อ้างอิงถึงลำโพงอัจฉริยะที่จะใช้คำสั่งเสียง และลำโพงจะสร้างการดำเนินการเพื่อตอบสนองดังกล่าว การกระทำเหล่านี้เกิดจากระบบผู้ช่วยเสมือนของลำโพงอัจฉริยะ ซึ่งในตัวอย่างที่ให้ไว้ข้างต้น ได้แก่ ระบบผู้ช่วยเสมือนของ Amazon (Amazon Alexa) และระบบผู้ช่วยเสมือนของ Google (Google Assistant) การดำเนินการทั่วไปที่ดำเนินการโดยใช้ลำโพงอัจฉริยะ คือ การถูกขอให้ทำสำเนาเพลง การสอบถามข้อมูล และการโทรออกหมายเลขโทรศัพท์ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้มือ

               ลำโพงอัจฉริยะกลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เติบโตเร็วที่สุดในแผนกบ้านอัจฉริยะ รายงานการวิจัยที่จัดทำโดย Markets and Markets ชี้ให้เห็นว่า “ขนาดของตลาดลำโพงอัจฉริยะคาดว่าจะเติบโตจาก 7.1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2020 เป็น 15.6 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2025” การวิจัยโดย IHS Markit สนับสนุนการเติบโตที่คาดการณ์ไว้นี้ โดยระบุว่า 85 ล้านเครื่องจะถูกจัดส่งในปี 2021

               เนื่องจากการใช้เทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีความต้องการความหลากหลาย และวิธีการที่ดีขึ้นสำหรับเจ้าของบ้านในการเชื่อมต่อ และควบคุมอุปกรณ์เหล่านี้จึงกลายเป็นสิ่งที่ถูกคาดหวังจากการที่ไม่จำเป็นต้องใช้คำสั่ง

การใช้IoT และเครื่องปรับอากาศอัจฉริยะ

               เครื่องปรับอากาศสำหรับที่อยู่อาศัยกำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และการให้ความสำคัญกับเครื่องปรับอากาศอัจฉริยะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวม และประสบการณ์ของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ ด้วยการจัดหาวิธีที่ใช้งานง่ายให้กับเจ้าของบ้าน ทำให้บริษัทต่าง ๆ สามารถควบคุมสภาพอากาศได้อย่างดีเยี่ยม และสะดวกสบาย เนื่องจากการใช้เครื่องวัดอุณหภูมิอัจฉริยะ (Smart Thermostat) ภายในบ้านยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง (ตลาดที่คาดว่าจะสูงถึง 8.78 พันล้านดอลลาร์ทั่วโลกภายในปี 2026) ทำให้มีความจำเป็นในการปรับปรุงประสบการณ์ในการควบคุมสภาพอากาศผ่านการสำรวจสิ่งที่IoT  สามารถทำได้สำหรับครัวเรือนให้เป็นไปตามความเหมาะสม

การก้าวไปอย่างชาญฉลาดด้วย airCloud Go

               airCloud Go เป็นแอปพลิเคชันศูนย์กลางIoT  รุ่นต่อไปของเรา โดยให้การควบคุมสภาพอากาศที่สะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งช่วยให้คุณจัดการ และตรวจสอบระบบของคุณผ่านสมาร์ทโฟน และช่วยลดการใช้พลังงาน ด้วยชุดหน้าจอของระบบ (UI) ที่ทันสมัย ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน และทำความเข้าใจได้ ตั้งแต่การติดตั้งไปจนถึงการกำหนดค่า และการใช้งาน

               ชุดแอปพลิเคชัน AirCloud ของเราได้รับการออกแบบมา เพื่อเสริมรูปแบบการดำเนินชีวิต และการทำงานให้สอดคล้องกับตารางงานที่ยุ่งของเรา การใช้งานเครื่องปรับอากาศ และการปรับอุณหภูมิสามารถทำได้ง่ายขึ้น และเจ้าของบ้านมีอิสระในการควบคุมเครื่องปรับอากาศได้จากทุกที่ในบ้าน หรือแม้กระทั่งขณะเดินทาง เพื่อปรับปรุงความสะดวกสบาย ความสะดวกในการใช้งาน และประหยัดพลังงานด้วย Air Cloud Home

·       ตรวจสอบสถานะเครื่องปรับอากาศของคุณได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องเข้าไปในห้องใดห้องหนึ่ง และโต้ตอบกับตัวเครื่องได้ด้วยตัวมันเอง

·       ใช้งานจากระยะไกลได้จากทุกที่ แม้จะอยู่นอกบ้าน และป้องกันการใช้งานที่มากเกินไป

·       ได้รับประโยชน์จากชุดหน้าจอของระบบที่ง่ายต่อการใช้งาน และดึงดูดการใช้งานได้มากกว่ารีโมทคอนโทรลทั่วไป

·       ปิดเครื่องปรับอากาศทั้งหมดได้ โดยใช้ปุ่มเพียงปุ่มเดียว (ไม่ปล่อยให้เครื่องปรับอากาศทำงานโดยไม่ได้ตั้งใจ)

·       เพิ่มการควบคุมประสิทธิภาพของเครื่องปรับอากาศในบ้านของคุณ

 

 

 

คำสั่งเสียง และเครื่องปรับอากาศอัจฉริยะ

               คำสั่งเสียงช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมเครื่องปรับอากาศโดยไม่จำเป็นต้องใช้มือเมื่ออยู่ที่บ้าน ทำให้สะดวกเมื่อทำกิจกรรมอื่น ๆ รอบบ้านอยู่ ในขณะที่ยังรักษาสภาพอากาศภายในบ้านได้อย่างสมบูรณ์แบบ และเมื่อใช้  airCloud Go ในงานต่าง ๆ เช่น การทำอาหาร การทำความสะอาด หรือทำงานที่บ้าน ก็ไม่จำเป็นต้องหยุดชะงัก คุณสามารถใช้คำสั่งเสียง เพื่อเปลี่ยนอากาศรอบตัวคุณได้ ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องกังวลว่าจะนำสิ่งสกปรก หรือความยุ่งเหยิงไปทั่วห้อง หรือการจัดการกับวัตถุรีโมทคอนโทรล

 

 

ง่ายต่อการติดตั้ง ง่ายต่อการใช้งาน

               ความสะดวกในการติดตั้งสามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้าในผลิตภัณฑ์ได้ และด้วยเหตุนี้เราจึงมั่นใจว่า airCloud Go นั้นรวดเร็ว และติดตั้งง่ายเช่นเดียวกับขั้นตอนการจับคู่กับสมาร์ทโฟนของคุณ ด้วยการใช้รหัสคิวอาร์ (QR Code)  ที่แสดงบนเครื่อง เพียงไม่กี่ขั้นตอน คุณก็จะสามารถใช้สมาร์ทโฟน หรือลำโพงเพื่อจัดการอากาศภายในบ้านของคุณได้

               แต่ละครัวเรือนจะมีความแตกต่างกัน และเราสร้าง airCloud Go โดยคำนึงถึงสิ่งนี้ เพื่อให้เข้ากับรูปแบบการดำเนินชีวิตของคุณ

·       ให้สิทธิ์การเข้าถึงแก่ผู้ใช้สูงสุด 10 คน

·       แอปพลิเคชันสามารถควบคุมเครื่องทำความเย็น และทำความร้อนของฮิตาชิได้มากถึง 20 เครื่อง

·       สร้างตารางกิจกรรมเครื่องปรับอากาศ และวางแผนล่วงหน้าตามกิจวัตรประจำวัน หรือแผนงานที่จะเกิดขึ้น ซึ่งช่วยให้คุณใช้งานเครื่องปรับอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

               เพื่อที่จะเพลิดเพลินไปกับ airCloud Go ผลิตภัณฑ์ทำความเย็น และทำความร้อนของฮิตาชิจึงขอเสนอเครื่องปรับอากาศที่พร้อมใช้งาน wifi ไม่ว่าจะมีชิปในตัวเครื่อง หรือใช้อะแดปเตอร์ wifi

               ทั้งนี้ IoT  และความเป็นไปได้ในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เราจึงพัฒนาวิธีการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ความสะดวกสบายแก่คุณที่บ้านให้สามารถเชื่อมต่อ เชื่อถือได้ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

โดย Hitachi Cooling & Heating